ท่านผู้อ่านเชื่อไหมครับว่าผู้บริโภคส่วนใหญ่ไม่ว่าจะเป็นต่างประเทศหรือบ้านเรา ไม่ค่อยจะมีความรู้ความเข้าใจแท้จริง เกี่ยวกับคุณสมบัติของฟิล์มกรองแสง ประกอบกับผู้ประกอบการส่วนมากไม่ค่อยจะสนใจเรื่องเกี่ยวกับการให้มาตรฐานที่ถูกต้องแท้จริง ในคุณลักษณะสินค้าฟิล์มกรองแสงกับผู้บริโภค
ทั้งนี้อาจเป็นเพราะประเทศเราไม่มีกฎหมายหรือมาตรฐานที่เป็นทางการ ที่จะเป็นตัวควบคุมการบอกคุณภาพของฟิล์มกรองแสง(Performance Properties of Window Film) ทำให้ผู้ประกอบการ(บางราย) ก็เขียนเอาเองแบบผิดๆถูกๆ จนผู้บริโภคเข้าใจผิด หรืองงจนไม่รู้เรื่องเอาเลย เวลาจะซื้อจะขาย หรือเลือกใช้ ก็มักจะเพียงดูยี่ห้อที่ตัวรู้จัก ราคาถูกบ้าง ของแถมบ้าง เป็นต้น
จริงๆแล้วการที่จะทำให้ผู้บริโภค หรือร้านค้าจำหน่ายติดตั้งเกี่ยวกับฟิล์มกรองแสงได้รับรู้ถึงคุณสมบัติ เช่น การลดความร้อนรวม(จากแสงแดด), การป้องกันรังสีอุลตร้าไวโอเลต, การลดคลื่นความร้อน(infrared) รวมถึงค่าการสะท้อนแสงของแผ่นฟิล์ม ตามที่กำหนดไว้ในข้อมูล คุณสมบัติ(Specification) ที่ผู้ผลิตหรือผู้นำเข้ากำหนดไว้ก็ดี สามารถที่จะใช้เครื่องมือวัด(Test Meter) วัดแผ่นฟิล์มกรองแสง(ก่อนติดตั้ง) หรือวัดแผ่นฟิล์มรวมกระจก หลังการติดตั้งกับรถ,อาคาร ได้อย่างไม่ยากเย็น ทำให้ผู้บริโภคมีความมั่นใจได้ว่า ได้สินค้าที่มีคุณสมบัติดีจริงตามที่ต้องการ และยังสามารถใช้เป็นเครื่องมือในการวัดเปรียบเทียบกับสินค้าแต่ละรุ่นแต่ละยี่ห้อได้
ก่อนที่จะเข้าสู้รายละเอียดเกี่ยวกับเครื่องมือต่างๆตลอดจนวิธีการอ่านค่า ผมขอบอกกล่าวถึงพื้นฐานคุณสมบัติของฟิล์มกรองแสง ว่าเข้าจะดูค่าอะไร? เพราะอะไร? มาเริ่มกันเลยครับ
วัตถุประสงค์สำคัญของการเลือกใช้ฟิล์มกรองแสง มี 2 ส่วนใหญ่ๆ คือ
เพื่อป้องกันความร้อนจากแสงแดด รวมถึงการลดแสงจ้า รังสียูวี(Solar Control) โดยจะพิจารณาคุณสมบัติของการควบคุมคลื่นรังสีต่างๆของแสงแดด เพื่อป้องกันกระจกแตก กระจกหลุดร่วงเมื่อเกิดอุบัติเหตุ(Safety & Security) โดยคุณสมบัติหลักจะดูคุณภาพของความทนทานของเนื้อฟิล์ม,การยึดติดกับกระจก เรียกรวมๆว่าคุณสมบัติด้านฟิสิกส์(Physical Properties) บางครั้งผู้บริโภคก็มีวัตถุประสองทั้ง 2 ส่วนรวมกันก็ได้ การที่จะดูคุณสมบัติตามวัตถุประสงค์ ข้อแรก สามารถใช้เครื่องมือจากห้องปฏิบัติการ(Laboratory) ซึ่งอันนี้ต้องให้สถาบันและผู้เชี่ยวชาญทำการทดสอบให้ตามมาตรฐาน(Standard Method) กำหนดไว้ และปัจจุบันก็มีเครื่องมือทดสอบลำดับ Commercialหรือ Personal Use ได้แล้ว แต่ใน คุณสมบัติตามวัตถุประสงค์ข้อ 2 ปัจจุบันสามารถทำการทดสอบจากห้องปฏิบัติการ(Lab) เท่านั้น
ในส่วนของคุณสมบัติการลดความร้อน,รังสียูวี,รังสีอินฟราเรด และการสะท้อนแสงของแผ่นฟิล์มนั้น ในระดับการทดสอบของร้านค้าที่ให้บริหาร หรือบุคคลก็มีเครื่องมือทดสอบ ทั้งที่ได้มาตรฐาน และยังไม่ได้มาตรฐาน แต่ก็พอที่จะใช้งานได้ระดับหนึ่ง เพียงแต่ยังไม่ค่อยที่จะเป็นที่แพร่หลายนักในประเทศที่ยังไม่ค่อยพัฒนาตามที่กล่าวข้างต้น
ระดับการทดสอบคุณสมบัติของฟิล์มกรองแสง และฟิล์มประเภทอื่นๆ โดยทั่วไปทำกัน 2 ระดับ คือ
ระดับทอดสอบทางห้องปฏิบัติการ(Laboratory Test): การทดสอบในระดับนี้ สามารถทำได้กับทุกคุณสมบัติของแผ่นฟิล์มทั้งทางด้านแสง (Optical Properties) และด้านกายภาพ (Physical Properties) ด้วยมาตรฐานและวิธีการทดสอบตามสถาบันต่างๆ เช่น ASTM,JIS,ANSI เบื้องต้นการทดสอบก็จะทำในกลุ่มของโรงงานผู้ผลิตสินค้าที่ได้มาตรฐาน รวมทั้งห้องแลบที่อยู่ในประเทศไทย เช่น กรมวิทยาศาสตร์บริการ(กระทรวงวิทยาศาสตร์) หน่วยงานทดสอบของมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียง เช่น มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้า เป็นต้น หรือตามห้องแลยที่มีชื่อเสียง และเป็นที่ยอมรับทั่วโลก เช่น PSB LAB ประเทศสิงคโปร์,Intertek Testing Service ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อทดสอบจนได้ผลแล้วผู้ผลิตหรือผู้ประกอบการก้สามารถนำมาใช้อ้างอิงกับสินค้ารายการนั้นได้ แต่อย่างไรก็ตามสินค้าที่ผลิตออกมาจะได้คุณภาพตามที่กำหนดไว้ในการทดสอบหรือไม่ ก็คงต้องขึ้นอยู่กับความสามารถของการผลิตและการควบคุมคุณภาพการผลิต(QC) ของโรงงานนั้นๆเป็นสำคัญ
ระดับทดสอบของผู้ประกอบการ(Commercial Test): การทดสอบในระดับนี้ สามารถทำได้โดยผู้นำเข้า,ผู้ให้บริการ,ผู้จัดจำหน่ายก็ได้ โดยใช้เครื่องทดสอบ(Meter) ตามทที่ผู้เชี่ยวชาญของการผลิตเครื่องได้สร้างขึ้นมา แต่อย่างไรก็ตามเครื่องมือที่จะนำมาทดสอบคุณสมบัติได้ทุกตัว และเครื่องมือทอดสอบจะต้องเป็นเครื่องมือที่ได้มาตรฐานในการวัดที่ถูกต้อง หรือผ่านการสอบเทียบ(Calibration) กับหน่วยงานหรือราชการที่เชื่อถือได้เสียก่อนจึงจะเป็นการดี ในระดับนี้ ปัจจุบันมีเครื่องมือทดสอบคุณภาพของฟิล์มกรองแสงให้เลือกใช้กันอย่าพอสมควร เช่น การทดสอบค่าการผ่านของแสงสว่าง(Visible Light Transmittion) ค่าการผ่านของรังสีอุลตร้าไวโอเลต(Ultra Violet Trasmittion) ค่าการผ่านของคลื่นรังสีอิฟราเรด(Infrared Light Transmittion) ค่าการสะท้อนของแสง (Visible Light Reflectance) หรือบางเครื่องก็มีความสามารถในการวัค่าของแสงที่ผิวฟิล์มได้ทั้งหมด เรียกว่า Photometer